10 วิธีฟื้นปัญหาผิวขาดน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ

10 Things to Help Dehydrated Skin

ผิวขาดน้ำ มักมีอาการแห้ง ลอก เป็นขุย อาจส่งผลทางลบกับรูปลักษณ์ภายนอกหรือส่งผลต่อความมั่นใจของเรา บางครั้งยังก่อให้เกิดการระคายเคือง เนื่องจากผิวแห้งตึง รู้สึกไม่สบายผิว ที่มีต้นเหตุมาจากผิวขาดน้ำ ซึ่งต่างจากผู้ที่มีผิวแห้งจากการขาดน้ำมันบนชั้นผิวตามธรรมชาติ 

เพื่อจัดการกับปัญหาผิวขาดน้ำ และฟื้นฟูผิวให้กลับมาเปล่งปลั่ง เรียบเนียน ต้องเริ่มแก้จากภายในสู่ภายนอก เราได้รวมวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพไว้ให้คุณแล้ว เพียงทำตาม 10 วิธีง่ายๆนี้ คุณจะมีผิวพรรณที่สดใสอิ่มน้ำดูสวยสุขภาพดีอย่างแน่นอน

1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดูแลผิวต้องเริ่มต้นจากภายใน การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะส่งผลดีต่อผิวของเราอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ใช่การฝืนดื่มน้ำปริมาณมากในคราวเดียว แล้วคาดหวังว่าจะต้องเห็นผลทันที เพราะการดื่มน้ำให้เพียงพอ ต้องฝึกฝนให้เกิดเป็นนิสัยในระยะยาว เพราะการฝืนดื่มน้ำเยอะๆ นอกจากยังไม่เห็นผล จะทำได้แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น สุดท้ายแล้วก็ต้องล้มเลิกความพยายาม เพราะการกดดันตัวเองมากจนเกินไป ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การทานผักและผลไม้ที่มีความชื้นสูง ก็สามารถช่วยผิวให้ดีขึ้นได้เช่นกัน เพราะในผักผลไม้สดหลายชนิด มีคุณประโยชน์จากปริมาณสารอาหารและมีน้ำเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ จะช่วยเติมน้ำให้ผิวดูสวยสุขภาพดีขึ้นได้จากภายในสู่ภายนอก

2.เครื่องทำความชื้น

การอาศัยอยู่ในบ้านหรือออฟฟิศ ในที่ร่ม แห้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดผิวขาดน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว จะมีค่าความชื้นในอากาศต่ำกว่าระดับปกติ ทำให้ความชื้นในผิวลดลงและก่อให้เกิดผิวขาดน้ำ การใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ผิวของเรากลับมาชุ่มชื้น การเติมความชุ่มชื้นในอากาศ ยังช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งแตก และอาการคันเนื่องจากผิวขาดความชื้นอีกด้วย 

ปัจจุบัน เครื่องทำความชื้นในอากาศ มีให้เลือกหลากหลายราคา หากว่ายังไม่มีงบที่จะซื้อเครื่องเพิ่มความชื้น เราก็ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยเพิ่มความชื้นให้อากาศโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก นั่นคือการปลูกต้นไม้ในบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดี เพราะความชื้นจากการคายน้ำของต้นไม้ จะช่วยเพิ่มปริมาณความชื้นในอากาศได้เป็นอย่างดี รวมถึงการวางภาชนะที่มีน้ำทิ้งไว้ การเปิดประตูห้องน้ำขณะอาบน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศได้เป็นอย่างดี 

3.ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน

สำหรับผู้ที่มีผิวขาดน้ำ มีการระคายเคืองร่วมด้วย อาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่อยู่ในภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกฝุ่น ควัน มลภาวะ หรือผู้ที่แต่งหน้าเป็นประจำ ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนเพื่อลดการระคายเคืองจากอาการผิวขาดน้ำ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่าความเป็นด่างสูง จะดึงน้ำมันที่จำเป็นต่อผิวออกไป การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกพร้อมสร้างเกราะป้องกันผิวให้กับคุณ หากมีอาการผิวแห้งขาดน้ำอย่างรุนแรง ให้ลดปริมาณการล้างหน้าลงเหลือวันละ 1 ครั้งในตอนเย็น เพราะการล้างหน้าในตอนกลางคืน จะชำระล้างคราบสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิว ในรูขุมขน รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุง และเครื่องสำอางที่ตกค้างออกได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวได้อีกด้วย

4.ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลงบนผิวที่ยังเปียกหมาดๆ

หลังการอาบน้ำ อย่าเพิ่งใช้ผ้าขนหนูเช็ดลงบนผิวแรงๆ เพราะนอกจากจะทำผิวระคายเคือง ยังทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นอีกด้วย วิธีที่ดีที่สุด คือการซับเบาๆ ปล่อยให้ผิวของคุณเปียกหมาดๆ แล้วทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลงไป วิธีนี้จะช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์ขณะผิวเปียกหมาดๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้น อีกทั้งยังสร้างเสริมเกราะป้องกันให้กับผิวอีกด้วย 

5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 

การทาครีมเป็นประจำที่ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวของคุณคงความชุ่มชื้นเอาไว้ แถมยังคืนความชุ่มชื้นแก่ผิวที่แห้งจากหลายสาเหตุ ลดอาการระคายเคืองจากผิวแห้ง ลดการอักเสบ เติมริ้วรอยร่องตื้น เมื่อใช้ครีมที่มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิว การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงในรูปแบบโลชั่นเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผิวมัน เพราะดูดซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ หรือหากคุณใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น ก็จะช่วยให้ผิวนุ่มลื่น ไม่แห้งจนเกินไป

6.ใช้เซรั่มบำรุงผิวกลุ่มที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant)

การใช้เซรั่มกักเก็บความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยกู้สมดุลผิวให้ดีขึ้น เซรั่มในกลุ่ม Humectant ประกอบไปด้วย กรดไฮยาลูโรนิกและกลีเซอรีน เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มเครื่องสำอางบำรุงผิว เพราะไม่เพียงกักเก็บความชื้นบนผิวได้ แต่ยังช่วยดึงความชื้นในอากาศ เข้ามาสู่ผิวเราได้อีกด้วย การเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ลงในขั้นตอนการดูแลผิวประจำวัน สามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมของคุณให้ดูสดใส เปล่งประกายดูสุขภาพดีมากขึ้น

7.มาส์กผิวหน้า

ผิวของเรามีแนวโน้มที่จะสูญเสียความชุ่มชื้นในช่วงเวลากลางคืน ขณะนอนหลับ โดยกระบวนการนี้ ถูกศึกษาค้นพบและเรียกว่า transepidermal water loss คือการที่ร่างกายของเราสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง เพราะในขณะที่เรานอน พื้นผิวที่ได้รับการสัมผัสมากที่สุดคือใบหน้า ดังนั้นการใช้มาส์กที่มีสารออกฤทธิ์ที่ดี จะสามารถซึมและช่วยปรับสภาพผิวให้คงความชุ่มชื้นไว้ได้ หากต้องการรักษาความชุ่มชื้นในผิว ลองใช้มาร์สที่มีส่วนผสมของ สควาลีนและกรดไฮยาลูโรนิก เพราะมาส์กเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูผิวให้คงความยืดหยุ่นและลดสัญญาณแห่งริ้วรอยก่อนวัย 

8.ขัดผิว

แม้ว่าการขัดผิวจะดูขัดกับการปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน แต่ก็มีความจำเป็นไม่น้อย เพราะการขัดผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำความสะอาดรูขุมขนและสิ่งสกปรกที่อาจขัดขวางการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น ซึ่งประโยชน์ของการขัดผิวคือการช่วยครีมบำรุงที่ทาลงไปบนผิวของเรา ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

9.หลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ 

มีอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภทที่ให้คุณประโยชน์ที่ดีต่อผิวเรา ในทางกลับกันก็มีอาหารและเครื่องดื่มที่ให้โทษแก่ผิวเช่นกัน การดื่มชา กาแฟ คาเฟอีนในชา กาแฟ จะกระตุ้นร่างกายให้เกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากคาเฟอีนถือเป็นยาขับปัสสาวะ ที่ช่วยระบายน้ำออกจากระบบของร่างกาย 

หากต้องการดื่มชา กาแฟ ควรจำกัดปริมาณไม่ให้เกิด 2 แก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำตาม 1 แก้ว เพื่อเจือจางคาเฟอีนไม่ให้ขับน้ำออกจากร่างกายมากจนเกินไป ซึ่งให้โทษเช่นเดียวกันกับเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ 

10.ใช้เวลาอาบน้ำให้น้อยลง

แม้การอาบน้ำอุ่นจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว แต่การอาบน้ำอุ่นนานๆ ทำให้เกิดผลเสียโดยตรงต่อผิว เนื่องจากร่างกายจะเสียความชุ่มชื้น และการอาบน้ำนานจะดึงน้ำมันที่จำเป็นออกจากผิวและกระตุ้นให้เกิดภาวะผิวขาดน้ำอีกด้วย  ดังนั้นหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นเป็นระยะเวลานาน เพื่อป้องกันผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และอย่าลืมที่จะบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ในขณะผิวเปียกหมาดๆ เพื่อคงความชุ่มชื้น ให้ผิวสวยอิ่มน้ำสุขภาพดี 


โพสต์ที่เก่ากว่า โพสต์ที่ใหม่กว่า